เพจ“ศูนย์คุ้มครองสตรีพลัดถิ่น ทูเรบัง” ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือและให้ความคุ้มครองผู้หญิงชาวต่างที่ถูกล่อลวงให้มาขายบริการทางเพศในเกาหลีใต้ เปิดเผยถึง ประสบการณ์จากการทำงานที่ศูนย์ต้องพบเจอและให้การช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์หลายๆ คนที่หนีออกจากร้านนวดนาบ หรือร้านนวนที่มีบริการทางเพศแฝง ว่าแม้จะมีเหตุจูงใจว่างานนั้นไม่ลำบาก และมีรายได้สูงในเวลารวดเร็ว แถมยังไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ความจริงแล้วเมื่อทำงานจริงๆ เหยื่อจะถูกยึดหนังสือเดินทางและกักขัง จนกว่าจะใช้ ‘แทก’ ซึ่งคือ ทุนค่าจัดหางานและค่าตั๋วเครื่องบิน จนหมด ยิ่งช่วงนี้ที่ตม.เกาหลีใต้มีการกวาดล้างหนัก ค่านายหน้ายิ่งสูงขึ้น และในขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้นายหน้าเหล่านี้ทำทุกวิถีทางไม่ว่าจะหลอกล่อหรือล่อลวงให้ผู้หญิงไทยไปทำงานด้วย
ระหว่างที่ถูกกักขังให้ใช้หนี้แทกนั้น
หญิงไทยเหล่านี้จะต้องทำงานฟรีๆ ด้วยการหลับนอนกับแขกให้ครบ 75 คน โดยหากค่าบริการอยู่ที่หนึ่งแสนวอนต่อคน ร้านนวดจะได้ 7.5 ล้านวอน หรือมากกว่านี้โดยนายหน้าจะได้ค่าหัว 2 ล้านวอน และ ‘บอส’ จะได้ 7-10 ล้านวอน
จากประสบการณ์ของเหยื่อ เพจกล่าวว่า “งานขายบริการทางเพศที่นี่ไม่ใช่แค่มีเพศสัมพันธ์กับแขกเท่านั้น ต้องทำทุกอย่างเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศเพื่อให้แขกพอใจ ถ้าทำไม่ได้จะโดนทำร้ายหรือด่าทอ บางคนไม่ยอมจะถูกข่มขืนจากคนเกาหลีหลายคน ดังนั้น คนที่ทำงานแบบนี้ได้ไม่ใช่ขายแค่ร่างกาย ต้องขายจิตวิญญาณด้วย”
นอกจากนี้ยังกล่าวว่าคนที่ทำงานนี้จะต้องเอาร่างกายเข้าไปเสี่ยงกับโรคทางเพศสัมพันธ์ หลายคนยอมยัดฟองน้ำขนาดเล็กหรือที่เรียกว่าลูกเจี๊ยบเพื่อไม่ให้มีรอบเดือนออกมา ซึ่งอันตรายต่อสุขภาพ เมื่อมดลูกอักเสบก็กินยารักษา ขณะที่สถานการณ์โรคเอดส์ในเกาหลีใต้ตอนนี้ก็กำลังระบาดหนัก แต่ไม่มีข่าวแพร่เพราะคนรอบข้างช่วยกันปกปิด แอบไปรักษาเองบ้าง เป็นแล้วไม่รู้ว่าเป็นบ้าง อีกทั้งนักเที่ยวเกาหลีก็ไม่ชอบใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน หลายคนยังไม่ตระหนักหรือเตรียมตัว หรือหลายคนพร้อมตายไปกับอาชีพนี้เพื่อแลกกับเงินที่หาได้
ทางเพจระบุว่า กรณีเหยื่อหนีออกจากขบวนการลักลอบส่งคนเข้ามาทำงานแล้ว ถ้าไม่อยากทำงาน หนีการจ่ายค่าแทก จะโดนเอเยนซี่ตามราวี หรือหนีกลับบ้านแล้วยังถูกนายหน้าเอเยนชี่ข่มขู่ให้ไปแจ้งความได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสายด่วนผ่านสื่อโซเชียลคนไทยในต่างแดน SMS ที่หมายเลข +66991301300 หรือไอดีไลน์ sac1300news
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ประมาณ 5 โมงเย็น วันนั้นคุณยายเป็นไข้เลยนอนพักที่บ้าน ระหว่างนั้นลูกชายมีอาการเมาหนักเป็นประจำทุกวัน เข้ามาปลุกยายบอกว่าหิวให้ไปซื้อมาม่าให้กินหน่อย แต่ยายบอกว่าเป็นไข้ไปไม่ไหวให้ไปซื้อเอง ลูกชายก็เอาตีนเขี่ยเอาตีนเตะ คุณยายรำคาญทนไม่ไหวเลยไปนอนที่แคร่หน้าบ้าน ลูกชายก็ตามไปอีกบังคับให้คุณยายไปซื้อมาม่าให้ คุณยายไม่ไปเลยศอกหลังเข้าใส่เบ้าตา เช้านี้เบาตาคุณยายบวมช้ำชัดขนาดนี้ ส่วนที่ฟันหักและเลือดกบปากนั้นเพราะว่า โดนต่อยเสยเข้าไปที่ปลายคาง
คุณยายแก่แล้วหลบไม่ทันเลยโดนเข้าไปเต็มๆ เย็บ 5 เข็ม ตามร่างกายที่ฟกช้ำเพราะลูกชายเอาตีนขยี้ ทั้งที่แขน ที่ขา ตีนขยี้ตรงไหนก็เขียวตรงนั้น กระทืบด้วยพอกระทืบแม่หนำใจ ก็เดินหนีไป คุณยายเลยต้องหนีไปขอความช่วยเหลือกับลูกสาวซึ่งบ้านอยู่ไม่ห่างไปมากนักลูกสาวกับญาติๆ พาไปโรงพัก ตำรวจบอกว่าต้องรวบรวมหลักฐานก่อน ยังไม่สามารถจับได้ทันที ให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
น้ำมันเถื่อนสงขลาระบาดหนักเพิ่มหลังน้ำมันไทยขึ้นราคา
จากสถานการณ์น้ำมันในประเทศที่ขึ้นราคา โดยน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 30.90 บาท และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ลิตรละ 28.90 บาท ทำให้ประชาชนจำนวนมากใน จ.สงขลา หันมาซื้อน้ำมันเถื่อนกันมากขึ้น เพราะน้ำมันเถื่อนนี้ราคาน้ำมันเบนซิน 97 อยู่ที่ลิตรละ 25 บาท และ น้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 23 บาท
ขณะนี้มีการขยายวงกว้างจากอ.สะเดามายังพื้นที่อื่นๆ โดยมีการจำหน่ายน้ำมันเถื่อนบรรจุขวดแกลลอนขนาด 10 – 20 ลิตร วางจำหน่ายตามริมถนนบ้านควบกบ-คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลาแล้ว นอกจากนี้ยังมีแบบบรรจุหลอดพร้อมหัวจ่ายน้ำมัน 4 – 5 หัวจ่ายวางจำหน่ายริมถนนบ้านบางศาลา ในพื้นที่อำเภอเดียวกัน
ทั้งนี้ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 97 และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ลิตรละ 18 บาท เท่านั้น
ลูกสาวเล่าว่า หมอบอกอย่าให้คุณยายกลับไปอยู่ที่บ้านเด็ดขาด ถ้าตำรวจยังไม่มาจับตัวลูกชายทั้งคุณยายทั้งลูกสาวคุณยายทุกคนอยู่ในอาการหวาดกลัว ไม่มีใครกล้านอนที่บ้าน และตำรวจก็ไม่ได้มาดูที่เกิดเหตุ เลยตัดสินใจเอาเรื่องนี้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพราะคิดว่าเรื่องจะเร็วขึ้นถ้ามีคนมาช่วย
เมื่อคืนก็นอนกันไม่ได้เพราะลูกชายที่ก่อเหตุเมาและมาก่อกวนที่บ้านบอกว่าจะเอาคุณยายกลับบ้านไปอยู่ด้วย ทุกคนก็กลัวว่า ถ้าไม่มารีบจับเข้าคุกต่อไปคงมีคนตาย เพราะขนาดกับแม่ยังกล้าทำขนาดนี้ไม่รู้วันไหนจะปาดคอคาตายหรือเปล่าวันนี้เห็นว่าช่วงบ่ายตำรวจนัดไปที่โรงพักอีกครั้งหนึ่ง ก็รอติดตามผลร่วมกันนะคะส่งกำลังใจให้คุณยายด้วย
นอกจากนี้ยังมีการระบุอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่สามารถกู้ข้อความกว่า 1,200 ความที่ขู่ฆ่า หรือ ใช้ถ้อยคำที่รุนแรงกับ ฮานะ คิมูระ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป