ตำรวจรัสเซีย เดินหน้าตั้งข้อหา สาวรัสเซีย หลัง แก้ผ้าหน้าโบสถ์ หากศาลตัดสินให้มีความผิดจริงอาจเจอคุกหนึ่งเดือน เมื่อวันที่ 13 มกราคม สำนักข่าว นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรัสเซียได้ตั้งข้อหา โพลินา มูรูจีนา สตรีมเมอร์สาวชาวรัสเซีย ที่แก้ผ้าถ่ายรูปหน้าโบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
โดย มูรูจีนา ถูกตั้งข้อหา ทำร้ายความรู้สึกของผู้นับศาสนา
และหากศาลรัสเซียตัดสินให้เธอมีความรู้สึกผิดจริง เธออาจต้องจำคุกเป็นระยะเวลาหนึ่งปี หรือ ถูกปรับเป็นเงินกว่า 130,000 บาท ด้านสตรีมเมอร์สาวยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อการถูกตั้งข้อหาครั้งนี้ และได้ทำการปิดอินสตาแกรมไปแล้ว อย่างไรก็ดีภาพถ่ายดังกล่าวนั้นถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งได้รับแจ้งเมื่อไม่นานมานี้
โดยทางการรัสเซียกำลังเดินหน้าปราบปรามผู้ที่ถ่ายภาพวาบหวิวหรือส่อถึงการมีเพศสัมพันธ์ใกล้กับโบสถ์หรือสถานที่สำนักงานของรัฐ หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ริต้า ฟ็อกซ์ ดาราผู้ใหญ่ชาวรัสเซีย ถูกตัดสินจำคุกเป็นระยะเวลา 14 วัน หลังจากที่เธอเปลือยก้นหน้า พระราชวังเครมลิน ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของนาย วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย
หรืออย่างในช่วงเดือนสิงหาคม 64 บล็อกเกอร์ชาวรัสเซียก็ถูกตัดสินจำคุกเป็นระยะเวลา 3 วัน หลังจากที่เปิดบั้นท้ายถ่ายรูปหน้าสำนักงานตำรวจ และพื้นที่อื่นๆของเมือง
ครอบครัวของ อดาเลีย โรส เด็กหญิงที่ป่วยเป็นโรคชราในเด็กได้ออกมาแจ้งข่าวเศร้าว่าเธอ เสียชีวิต แล้ว ด้วยวัย 14 ปี เมื่อวันที่ 13 มกราคม เพจเฟซบุ๊กครอบครัวได้แจ้งข่าวการจากไปของ อดาเลีย โรส เด็กหญิงวัย 14 ปีที่ป่วยเป็นโรคชราในเด็ก หรือ Hutchinson-Gilford Progeria Syndrome ซึ่งเป็นโรคหายากและมีผู้ป่วยเพียงแค่กว่า 500 คนบนโลกเท่านั้น
โดยทางครอบครัวกล่าวว่าเธอเสียชีวิตเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันจันทร์ที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่าแม้เธอจะจากไปเงียบๆ แต่เธอได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคคลหลายล้านคนในการต่อสู้ชีวิตของเธอ
ซึ่งทางครอบครัวยังได้กล่าวอีกว่า อดาเลีย โรส ไม่ต้องเจ็บปวดแล้วและขณะนี้เธอกำลังเต้นรำไปกับดนตรีที่เธอรัก และทางครอบครัวขอขอบคุณทุกความรักและทุกกำลังใจที่ชาวเน็ตมอบให้ อดาเลีย โรส พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่แพทย์และนางพยาบาลที่ทำงานอย่างหนักเพื่อให้เธอมีสุขภาพแข็งแรง
อดาเลีย โรส กลายเป็นที่รู้จักในอินเตอร์เน็ต จากวิดีโอร้องเพลงและการเต้นรำของเธอ รวมไปถึงวิดีโอแต่งหน้าและแต่งตัว ซึ่งชาแน่ลยูทูปของเธอนั้นมีคนเข้าชมมากกว่า 330 ล้านครั้ง
จีน งัด ตรวจโควิดผ่านทวารหนัก เตรียมพร้อม ก่อนโอลิมปิกฤดูหนาว
ทางการจีนนำวิธีการ ตรวจโควิดผ่านทวารหนัก กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 22 มกราคม สำนักข่าว นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า ทางการจีนได้นำวิธีการตรวจหาโควิดผ่านทวารหนักกลับมาอีกครั้ง โดยการนำวิธีการตรวจโควิดครั้งนี้ถูกนำกลับมาใช้สองสัปดาห์ ก่อนการแข่งขันมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาว ที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์
ซึ่งสื่อในประเทศจีนอ้างว่า มีประชาชนอย่างน้อย 27 คนที่ผ่านวิธีการตรวจโควิดนี้ และในจำนวนผู้ถูกตรวจนั้น พบว่ามีผู้ป่วยโอมิครอนรวมอยู่ด้วยหนึ่งราย โดยเจ้าหน้าที่ใช้สำลีที่มีความยาวราวๆ 3 ถึง 5 เซนติเมตรสอดเข้าไปรูทวาร และหมุนสำลีเบาๆ ซึ่งทางการระบุว่าวิธีดังกล่าวจะสามารถช่วยให้สามารถตรวจหาเชื้อที่ตกค้างได้ง่ายขึ้น และเชื้อที่อยู่ในรูทวารจะอยู่ได้นานกว่าจมูก และ คอ
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 64 ทางการจีนได้นำการตรวจโควิดผ่านทวารหนักมาใช้เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ทางการญี่ปุ่นได้วอนให้ทางการจีนหยุด ตรวจโควิดผ่านทางทวารหนัก กับประชาชนชาวญี่ปุ่น หลังจากที่มี ชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าประเทศจีนจำนวนหนึ่งได้ร้องกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศจีน ว่าพวกเขาต้องผ่านกระบวนการดังกล่าว
โดยชาวญี่ปุ่นระบุว่าการ ตรวจโควิดผ่านทางทวารหนัก นั้นสร้างความเครียดและทำให้พวกเขาเกิดสภาวะปัญหาสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก
เจ้าหน้าที่เนเธอร์เเลนด์ ตะลึง! พบชายนิรนามซ่อนอยู่บริเวณล้อเครื่องบินขนส่งสินค้า หลังบินตรงจากแอฟริกาใต้ ยาวนานกว่า 11 ชม. วานนี้ 23 ม.ค. 65 เว็บไซต์ต่างประเทศ The Guardian รายงาน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน สายการบินเนเธอร์เเลนด์ ตรวจพบชายแปลกหน้าซ่อนอยู่บริเวณล้อจมูกเครื่องบินส่งสินค้า ที่บินตรงจากแอฟริกาใต้ เป็นเวลา 11 ชม.
หลังลงจอดที่ ท่าอากาศยานสคิปโฮล ในกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงเนเธอร์แลนด์ ผู้ที่เห็นบุคคลดังกล่าวซ่อนตัวอยู่คือ พนักงานภาคพื้นดินของท่าอากาศยาน เธอได้แจ้งกู้ภัยและตำรวจมาในที่เกิดเหตุทันที หลังจากนำชายแปลกหน้าออกมาจากที่ซ่อนภายในจมูกล้อเครื่องบิน ชายคนนั้นมีอุณหภูมิร่างกายลดต่ำมาก แต่ยังมีชีวิตอยู่
เหตุการณ์ดังกล่าวทำสายการบิน ตกตะลึงเป็นอย่างมาก หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นไป ทางท่าอากาศยานสคิปโฮล ออกมาประกาศว่า พวกเขาทึ่งมากที่ชายคนดังกล่าวมีชีวิตท่ามกลางการเดินทางนับ 1 หมื่นกิโลเมตร พร้อมอากาศที่หนาวมากๆ นับ 11 ชม. ขณะนี้ชายคนดังกล่าวถูกช่วยเหลือไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยเรียบร้อยแล้ว
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป