‘นิกร จำนง’ ติดโควิด รับห่วงพิจารณา กม.ลูกเลือกตั้ง ในสัปดาห์หน้า

‘นิกร จำนง’ ติดโควิด รับห่วงพิจารณา กม.ลูกเลือกตั้ง ในสัปดาห์หน้า

นิกร จำนง ส.ส.พรรคชาติไทย เผยว่าตนติด โควิด เตือนประชาชนให้ระวังเพราะโควิดอยู่ทุกที่ รับห่วงพิจารณา กม.ลูกเลือกตั้ง ในสัปดาห์หน้า นาย นิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนาได้แจ้งข่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า ตนป่วยเป็นโรคโควิด-19 พร้อมโพสต์รูปผลตรวจ ATK ซึ่งขึ้นเป็นสองขีด พร้อมโพสต์เตือนให้ประชาชนระวังตัวจากโควิด-19

โดยข้อความระบุว่า “ระวังตัวกันนะครับ โควิตรอบนี้โอบล้อมอยู่รอบตัวจริง 

ผมดูแลตัวเองค่อนข้างเคร่งครัดมาตลอด ส่วนใหญ่ใส่หน้ากาก2ชั้น ฉีด Vaccine AZ 2 เข็ม+Pfizer เข็ม 3 ตามคำแนะนำ เวลาต้องไปประชุมหรือไปงานที่มีคนมากกลับมาก็ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ Check Atk บ่อยมาก เมื่อวานซืนเช็คก่อนเข้าประชุมยัง Negative อยู่

แต่เมื่อวานเย็นหลังเลิกประชุมมาครึ่งวัน รู้สึกคัดจมูกเลยเช็ค ATK ดู ขึ้น 2 ขีด เช็คซ้ำกับอีกชนิดหนึ่งก็สองขีด เลยเรียนท่านประธานกมธ.ร่างกฏหมายเลือกตั้งสองฉบับคือท่านรัฐมนตรีสาธิต ปิตุเตชะ ที่ผมเป็นเลขานุการกรรมาธิการชุดนี้อยู่ ขออนุญาตHome Isolation เพราะคิดว่าไม่หนักมาก จะได้ไม่เป็นภาระมากนัก ท่านให้กักตัวรักษา อยู่บ้าน 10 วัน พร้อมให้ผมโทรไปหาผู้รับผิดชอบ

ขณะนี้ได้รับยาและอุปกรณ์เวชภัณฑ์ตามเกณฑ์สำหรับประชาชนมาแล้วด้วยความขอบคุณ ส่วนที่เป็นห่วงมากคือคณะกรรมาธิการห่วงทั้งเพื่อนกรรมาธิการคณะใหญ่ 49ท่าน ที่ท่านประธานให้คำแนะนำและติดตามโดยใกล้ชิดแล้ว ห่วงน้องๆเจ้าหน้าที่ แม้เราจะจัดห้องนั่งห่างกันมาก และผมได้ให้พ่นยาฆ่าเชื้อทุกสัปดาห์ ห่วงงานก็ห่วงเพราะเป็นกฏหมายสำคัญประชุมทางonline ก็ไม่ได้ สัปดาห์หน้ามีVoteสำคัญทั้งสองวัน ผมจะพยามยามหายให้เร็วที่สุด มิตรสหายทั้งหลายดูแลตัวเองกันดีๆนะครับ มันอยู่รอบตัวเราและติดต่อง่ายดายจริงๆครับ”

ขณะที่มีรายงานเพิ่มเติมว่า นาราเครปกระเทย และ หนูรัตน์ ที่ร่วมถ่ายโฆษณา Lazada ชุดเดียวกันโดยข้อหา ม.112 ด้วยเช่นกัน ด้านชาวเน็ตได้ร่วมติด #Saveมัมดิว กันเป็นจำนวนมาก พร้อมเรียกร้องมีการปล่อยตัว มัมดิว รวมถึงเรียกร้องให้มีการยกเลิก ม.112

‘ประยุทธ์’ ยินดี หลัง ข้อตกลงด้านแรงงานไทย-ซาอุ สมบูรณ์ ลงนามปลายเดือน

โฆษกสำนักนายกฯ เผย ประยุทธ์ ยินดีหลัง ข้อตกลงด้านแรงงานไทย-ซาอุ สมบูรณ์ เตรียมลงนามปลายเดือนนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทย นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ความร่วมมือทางด้านแรงงานระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย มีผลสำเร็จเป็นรูปธรรมมากขึ้น หลังจากกระทรวงแรงงานได้ขานรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ผลักดันความร่วมมือแรงงานระหว่างทั้งสองประเทศมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนซาอุดีฯ อย่างเป็นทางการครั้งประวัติศาสตร์ จนนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงด้านแรงงาน ซึ่งจะลงนามปลายเดือนนี้

โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานได้ขับเคลื่อนและผลักดันความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่ทั้งสองประเทศฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยมีจุดประสงค์สำคัญเพื่อให้สามารถจัดส่งแรงงานไปทำงานในซาอุดีอาระเบียได้เร็วที่สุด

โดยเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานของไทยได้หารือกับ ดร.อัฎนัน อับดุลลาห์ อัล–นาอีม (H.E. Dr. Adnan Abdullah Mohammed Al Naim) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย และคณะ ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ได้กระชับความสัมพันธ์ด้านแรงงานให้แน่นแฟ้น พร้อมเชื่อว่าการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในซาอุดีอาระเบียจะสำเร็จโดยเร็ว โดยทั้งสองฝ่ายได้ข้อยุติด้านข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการลงนามเพียงอย่างเดียว ซึ่งฝ่ายไทยจะเร่งรัดให้มีการลงนามโดยเร็วที่สุดเพื่อประโยชน์ของพี่น้องคนไทยที่ต้องการไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังระบุว่า มีแรงงานไทยแจ้งความประสงค์ไปทำงานประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ลงทะเบียนผ่านระบบ E–service เว็บไซต์ https://toea.doe.go.th แล้วกว่า 1,000 คน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ การทดสอบฝีมือแรงงาน และการตรวจสอบตำแหน่งที่สมัคร ให้ตรงตามที่ทางซาอุดีฯ ต้องการ โดยไทยจะเดินทางไปลงนามข้อตกลงในวันที่ 28 มีนาคมนี้ และจะได้ไปเยี่ยมชมโรงงาน ดูสภาพการจ้าง เพื่อเป็นข้อมูลมาเผยแพร่ให้คนไทยได้เห็นสภาพการทำงานที่ซาอุดีฯ อีกด้วย

“ผลสำเร็จของการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีฯ จากการเดินทางเยือนซาอุดีฯ อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมีในหลายด้าน ซึ่งเริ่มเห็นความสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือทางด้านแรงงานเป็นอีกมิติที่เห็นความคืบหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลมาจากการสานต่อและผลักดันของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินงานนี้จะทำให้ภาคแรงงานของไทยสามารถเดินทางกลับซาอุดีฯ ได้อีกครั้ง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการทำงานให้แรงงานไทย รวมถึงช่วยพัฒนาทักษะแรงงานไทย ต่อยอดไปยังความร่วมมือด้านอื่นๆ และยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอีกด้วย” นายธนกรฯ กล่าว

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป